The Fact About สงครามการค้า That No One Is Suggesting

"เจนีวาจะออกแต่แถลงการณ์ที่ไม่แสดงความรู้สึกเกี่ยวกับ 'บทสนทนาที่ตรงไปตรงมา' และความปรารถนาที่จะพูดคุยต่อไปเท่านั้น"

อย่างไรก็ดี ผมก็ควรต้องให้ความเป็นธรรมว่า บรรดากลุ่มผลประโยชน์ไม่ใช่คนที่กดปุ่มสั่งกำแพงภาษีที่ทรัมป์ประกาศใน “วันปลดแอก” หรอกครับ พวกเขาไม่มีเวลาทำอย่างนั้นหรอก ในเมื่อว่ากันว่าทรัมป์ไม่ได้ตัดสินใจเรื่องแผนนี้เลยด้วยซ้ำจนกระทั่งเวลาล่วงเลยมาถึงสามชั่วโมงก่อนที่เขาจะกล่าวสุนทรพจน์เขย่าโลกในสวนกุหลาบ

สี จิ้นผิง ยืนเคียงข้างผู้นำจากทั่วโลกใต้ ซึ่งถือเป็นเครื่องเตือนใจรัฐบาลของทรัมป์ว่าจีนไม่เพียงแต่มีทางเลือกอื่นสำหรับการค้าเท่านั้น แต่ยังแสดงตนเป็นผู้นำระดับโลกอีกด้วย

กรณีนี้แย่ยังไง? สุดท้ายทุกคนในแง่หนึ่งย่อมเป็นสมาชิกของกลุ่มผลประโยชน์อะไรสักกลุ่มกันหมดไม่ใช่หรือ แล้วทำไมการล็อบบี้ของกลุ่มผลประโยชน์จึงไม่สะท้อนประโยชน์สาธารณะของคนทั้งชาติล่ะ?

โลกทัศน์ของทรัมป์ตั้งอยู่บนลัทธิพาณิชย์นิยมฉบับกระด้าง นักเศรษฐศาสตร์คนไหนก็ตามที่พยายามพูดเรื่องการค้าระหว่างประเทศกับคนที่ไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์ต่างรู้ดีว่า ลัทธิพาณิชย์นิยมฉบับกระด้างนั้นโดนใจคนหมู่มาก มันคือความคิดที่ว่าเราชนะเมื่อชาวต่างชาติซื้อของของเรา และเราแพ้เมื่อเราซื้อของของพวกเขา ความคิดนี้ดูเป็นสามัญสำนึกสำหรับคนจำนวนมาก เช่นเดียวกับความคิดที่ว่า เราขาดดุลการค้าเพราะประเทศอื่นต้องเล่นไม่ซื่อกับเราแน่ๆ พวกเขาต้องฉวยโอกาสจากคำมั่นสัญญาที่ไร้เดียงสาของเราต่อการค้าเสรีชัวร์ๆ

การขาดดุลการค้าที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯอยู่ที่ประเทศจีน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ สงครามการค้า ส่วนการส่งออกที่อเมริการส่งให้จีนจะเป็นสินค้าจำพวกเครื่องบินพาณิชย์ ถั่วเหลือง และรถยนต์

โดยรวมแล้ว คาดว่าการเจรจาจะกินเวลาหลายเดือน แบบที่เคยเกิดขึ้นในวาระแรกของทรัมป์

สงครามการค้าเกิดขึ้นเมื่อประเทศต่าง ๆ ใช้มาตรการกีดกันทางการค้า เช่น การขึ้นภาษีนำเข้า หรือการจำกัดการนำเข้าสินค้าจากประเทศคู่ค้า เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศของตัวเอง ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ในโลกของเรา

เวลานั้น สมรภูมิในยุโรปกำลังสู้รบกันอย่างหนัก

ในระหว่างนี้ ผู้บริโภคและผู้ประกอบการทั่วโลกต้องรับมือกับความผันผวนที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้นหรือความไม่แน่นอนในห่วงโซ่อุปทาน ในโลกที่เศรษฐกิจเชื่อมโยงกันอย่างซับซ้อน สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสองประเทศนี้ แต่ยังกลายเป็นกระจกสะท้อนความเปราะบางของระบบเศรษฐกิจโลกที่ต้องการการปฏิรูป

ต่อมาในวันนั้นจีนตกลงที่จะลดกลับภาษีรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นก่อนหน้านี้ อีกทั้งยังตกลงที่จะคืนสิทธิ์การสั่งซื้อการนำเข้าถั่วเหลืองบางส่วนและอนุญาตให้ บริษัท ในสหรัฐอเมริกาเข้าถึงอุตสาหกรรมจีนได้มากขึ้น

และเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เศรษฐกิจตกต่ำไปทั่วโลก

ข้ามไปเนื้อหา เมนูหลัก เมนูหลัก

เมื่อสหรัฐฯ ภายใต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังใช้มาตรการภาษีเพื่อต่อรองในการค้าขายกับต่างชาติ วีโอเอชวนมองย้อนประวัติสงครามการค้าระหว่างอเมริกากับประเทศอื่น ๆ ในโลก

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *